ข้อมูลสเปค OPPO Reno 8 Series หน้าจอไหลลื่น เน้นถ่ายรูปแบบสวยๆ

Reno 8 Series ส่วนวงการมือถือปีนี้เปิดตัวแบบไม่มีสะดุดเลย โดยเฉพาะรุ่นใหม่จาก OPPO เรียกได้ว่าเปิดตัวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ รุ่น Flagship หรือรุ่นสเปคกลางก็มีครบทุกอย่างจริงๆ และอีกรุ่นที่น่าสนใจมากที่เปิดตัวในจีนเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม นั่นคือซีรีย์ Reno8 ที่เปิดตัวพร้อมกัน 3 รุ่น ได้แก่ Reno8, Reno8 Pro และ Reno8 Pro+ โดยทุกรุ่นเน้นที่หน้าจอที่ลื่นไหล ถ่ายภาพที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ในเวอร์ชันโปร และเซลฟี่ได้สวยอย่างแน่นอน

พร้อมด้วยขุมพลังอันทรงพลังของชิปที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Snapdragon 7 Gen 1 ของ Qualcomm ในเวอร์ชันโปรอีกด้วย สิ่งสำคัญคือราคาของแต่ละรุ่น ถ้าแปลงจากหยวนราคาอยู่กลางหมื่นครับ สูงสุดถึง 20,000 ต้นๆ เท่านั้น ใครที่รอเข้าไทยมาใช้คงต้องรออีกสักพักครับ แต่ก่อนอื่นเรามาดูสเปกของแต่ละรุ่นที่ Specphone จะรวบรวมมาให้คุณวันนี้กันก่อน Samsung ข้อมูลจำเพาะของ OPPO Reno 8 Series มีอะไรบ้าง? จุดเด่นและสเปกของแต่ละรุ่นมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย

OPPO Reno 8

มาเริ่มกันที่สเปกของรุ่นเริ่มต้นของ OPPO Reno 8 Series กันก่อน ดีไซน์ของแต่ละรุ่นจะคล้ายกัน ที่สำคัญคือมันเบาและมีรูปทรงสี่เหลี่ยมอยู่ที่ขอบตัวเครื่อง แต่ก็มีมุมโค้งมน และมีโมดูลกล้องที่ยกมาอย่างลงตัว พร้อมป้องกันรอยนิ้วมืออีกด้วย มีให้เลือกสามสี ได้แก่ น้ำเงิน (สวยมาก), สีดำ และสีทองสว่าง หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็น FHD+ AMOLED กว้าง 6.43 นิ้ว พร้อม Refresh Rate 90Hz และ Touch Sensing สูงสุด 180Hz เล่นเกมได้ไหลลื่นด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวจาก HyperBoost และ Super Lightning Launch 2.0 ที่ช่วยให้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้นอีกด้วย

ความเร็วของรุ่นนี้ไม่ธรรมดา ด้วยความแรงของชิปเรือธง Dimensity 1300 ความเร็ว 3.0 GHz พร้อม GPU Mali-G77 MC9 บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1 โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อยตามความจุ ได้แก่ RAM 8GB, 12GB และรอม 128GB, 256GB และการระบายความร้อน 3D ส่วนกลาง ทำให้อุปกรณ์ของคุณเย็นลงและเล่นเกมได้อย่างสะดวกสบาย คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป รุ่นนี้มีความจุแบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับ Super Flash Charge 80W ชาร์จ 45% ใน 5 นาที และชาร์จเต็มได้เพียง 28 นาที

ในส่วนของกล้องรุ่นนี้มีกล้อง 3 ตัว โดยมีความละเอียดกล้องหลัก 50MP (ƒ/1.8), เลนส์มาโคร 2MP (ƒ/2.4) และเลนส์ขาวดำ 2MP (ƒ/2.4) ที่สามารถถ่ายภาพได้คมชัด แม้ในสภาพแสงน้อย อีกทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว EIS ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น หรือจะบันทึกวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันก็ได้ รุ่นนี้มีกล้องหน้า 32MP (ƒ/2.4) พร้อมเซ็นเซอร์ IMX709 ที่ออกแบบร่วมกับ Sony ถ่ายเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจเพราะ AI ช่วยปรับใบหน้าให้ดูสดใสเป็นธรรมชาติ โดยรวมแล้วแม้จะเป็นรุ่นธรรมดาแต่สเปกก็ดี ใช้งานได้ทุกรูปแบบจริงๆ OPPO

OPPO Reno 8 Pro

มาต่อกันที่รุ่นกลางสำหรับ OPPO Reno 8 Series รุ่นนี้เหนือกว่ารุ่นอื่นจริงๆ แม้จะยังไม่ใช่รุ่นท็อปสุดของซีรีย์นี้ก็ตาม แต่ก็ทำออกมาได้เร็วและสเปคดีและคุ้มค่าน่าใช้เช่นกัน ดีไซน์ของรุ่นนี้ก็คล้ายกัน โดยทุกรุ่นในซีรีส์จะเหมือนกันโดยมีโมดูลกล้องที่ยกขึ้นอย่างแนบเนียนและมีการป้องกันลายนิ้วมือที่ฝาหลังด้วยตัวเครื่องทรงสี่เหลี่ยมและมุมโค้งมน และมีสามสีเหมือนกันคือ น้ำเงิน ดำ และทองสว่าง

แต่รุ่นนี้จะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นปกตินิดหน่อย หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็น AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.62 นิ้ว พร้อม Refresh Rate 120Hz และ Touch Sensing สูงสุด 360Hz เล่นได้ราบรื่นขึ้นและรองรับ HDR 10+ และเทคโนโลยี HyperBoost และ Super Lightning Launch 2.0 แบบเดียวกัน Samsung

ในส่วนของชิปรุ่นนี้ใช้ชิปใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm และถือเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Snapdragon 7 Gen 1 ที่ความเร็ว 2.4 GHz รุ่นนี้ยังมีระบบระบายความร้อนแบบ 3 มิติอีกด้วย รวมถึงระบบปฏิบัติการที่เป็น Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1 โดยมีความจุ 3 รุ่นแยกกัน ได้แก่ RAM 8GB, 12GB พร้อม ROM 128GB, 256GB และมีแบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับ Super Flash Charge 80W ชาร์จเร็วด้วย

OPPO Reno 8 Pro+

ปิดท้ายด้วยรุ่นท็อปที่แข็งแกร่งของ OPPO Reno 8 Series ดีไซน์ตัวเครื่องของรุ่นนี้ยังคงคล้ายกัน กับทุกรุ่นในซีรีส์ ทั้งตัวเครื่องเป็นแบบเหลี่ยมและโค้งมนตรงมุม รวมถึงโมดูลกล้องที่ไร้รอยต่อและฝาหลังป้องกันลายนิ้วมือ แต่หากสังเกตดีๆ และพื้นที่รอบๆ เลนส์ของรุ่นนี้ก็เรียบไปกับโมดูลด้วย มันไม่ยกสูงเหมือนอีกสองรุ่น ทำให้รุ่นนี้จะบางเป็นพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆทั้งหมด มีสามสีให้เลือก: สีเทา สีดำ

และสีเขียวอ่อน หน้าจอของรุ่นนี้เป็นแบบ FHD+ AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว กว้างกว่าทุกรุ่น พร้อมด้วย Refresh Rate 120Hz และ Touch Sensing สูงสุด 360Hz พร้อมรองรับ HDR10+ และ HyperBoost และเทคโนโลยี Super Lightning Launch 2.0 เช่นเดียวกับทุกรุ่นในซีรีส์นี้ OPPO

ส่วนชิปประมวลผลของรุ่นนี้ใช้ Dimensity 8100 MAX อันทรงพลังที่มาพร้อมกับ GPU Mali-G610 MC6 ส่งผลให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 25% การเรนเดอร์เพิ่มขึ้น 29% และประสิทธิภาพ AI เพิ่มขึ้น 175% % ทีเดียว รุ่นนี้มีระบบระบายความร้อน ซุปเปอร์คริสตัลไลน์ ที่มีเสถียรภาพและดียิ่งขึ้นกว่าเดิม รุ่นนี้จะมีสองรุ่นย่อยที่มีความจุ 8GB RAM, 12GB และ 256GB ROM บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบคลุมด้วย ColorOS 12.1 และความจุแบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับ Super Flash Charge 80W เช่นเดียวกับทุกรุ่น Reno 8 Series

บทความที่เกี่ยวข้อง